เหตุผลที่ทำให้ไม่สามารถใช้บาร์โค้ดได้

การจัดการบาร์โค้ดเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในการส่งมอบสินค้าที่ผู้รับได้รับอาจจะไม่มีบาร์โค้ดก็ได้ ตัวอย่างเช่น

       กรณีแรก ฉลากบนกล่องของสินค้าที่ได้รับไม่มีบาร์โค้ดติด แต่แสดงแค่ชื่อสินค้าเท่านั้น และการที่เราจะแจ้งให้ผู้ผลิตสินค้าทุกรายทุกเจ้าให้ใช้ระบบบาร์โค้ดติดบาร์โค้ดบนกล่องสินค้านั้นก็เป็นเรื่องยากและลำบากเช่นเดียวกัน ซึ่งทำให้การตรวจสินค้ามีขั้นตอนที่มากขึ้นไปด้วย

       กรณีที่สอง ไม่มีบาร์โค้ดกำหนดให้สินค้า นั้นก็หมายความว่า การติดฉลากบาร์โค้ดบนสินค้าเป็นเรื่องที่ลำบาก ซึ่งอาจจะด้วยหลายสาเหตุ ดังนี้ รูปทรงของสินค้า รวมไปถึงวัสดุ และต้นทุนที่ใช้ในการผลิตด้วย สินค้าที่โดยปกติไม่มีบาร์โค้ดติด เช่น ถ้วยกระดาษ เป็นต้น ส่วนสินค้าที่ไม่สามารถติดบาร์โค้ดได้เนื่องจากรูปร่าง และขนาด เช่น เครื่องมือช่างขนาดเล็ก เป็นต้น ซึ่งทำให้การเลือกสินค้ามีขั้นตอนมากขึ้น

       การที่เราทำการตรวจสอบด้วยสายตาหรือเขียนบันทึกด้วยมือนั้นมีข้อจำกัดหลายอย่าง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการจัดส่งหรือทำให้สินค้าคงคลังผิดพลาดไปด้วยเช่นกัน ซึ่งเราอาจจะปรับปรุงประสิทธิภาพในการตรวจรับสินค้า เช่น เมื่อได้รับสินค้าที่ไม่มีบาร์โค้ดติดอยู่ ก็ให้ใช่ตารางการตรวจรับสินค้าเพื่อตรวจสอบสินค้าที่ต้องการ Flowงานในการตรวจรับสินค้าเมื่อใช้งาน เครื่องอ่านบาร์โค้ด และ Handheld Computer อาจเป็นดังนี้

       ⇒ ก่อนการตรวจรับต้องส่งตารางการตรวจรับสินค้าและการกำหนดบาร์โค้ด ออกตารางการตรวจรับสินค้าโดยอ้างอิงกับประวัติหรือข้อมูลอื่น

       ⇒ การส่งมอบและการตรวจสอบ ทำการสแกนตาราง รับสินค้า ส่งข้อมูล (อัพเดทสินค้าคงคลัง) สแกนบาร์โค้ดบนตารางตรวจรับผลิตภัณฑ์เพื่อแสดงรายการสินค้าขาเข้าหน้าจอ Handheld Computer ตรวจสอบและเลือกสินค้าในรายการบน  หน้าจอเพื่อลบออกจากรายการ

       ⇒ พื้นที่เก็บข้อมูลชั่วคราว พิมพ์ฉลากบาร์โค้ดและติดลงบนกล่องสำหรับจัดส่งสินค้าเพื่อจัดทำการจัดเก็บชั่วคราว

       เราสามารถเชื่อมต่อ Handheld Computer และระบบหลักเพื่อให้เราสามารถตรวจสอบสินค้าขาเข้า อัพเดทสินค้าคงคลัง และพิมพ์ฉลากบาร์โค้ดได้พร้อมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกระบวนการทำงานให้สมบูรณ์แบบ